ปัญหาโครงการ SAP ของกองทัพสหรัฐฯ

ในกองทัพสหรัฐฯ อันมีแสนยานุภาพเกรียงไกร ก็มีเรื่องวุ่นๆ กับการติดตั้งใช้งานซอฟต์แวร์ด้วยเหมือนกัน ซอฟต์แวร์ที่ว่านี้คือระบบ SAP หรือ General Fund Enterprise Business System (GFEBS) อันเป็นระบบ ERP ขนาดใหญ่ ที่เมื่ออิมพลิเมนต์สำเร็จแล้ว จะทำหน้าที่รองรับการบริหารงบประมาณประจำปีมูลค่ากว่า 140,000 ล้านเหรียญ และเมื่อเสร็จสมบูรณ์จะรองรับผู้ใช้งานได้เกือบ 80,000 คน

ตามรายงานข่าวเมื่อวันที่ 8 ก.ค  2554 สำนักผู้ตรวจสอบทั่วไป กระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา ได้รายงานถึงปัญหาโครงการ SAP ขนาดใหญ่ของกองทัพสหรัฐฯ ว่ามี “ความเสี่ยงสูง” ในการดำเนินการเกินระยะเวลาและเกินงบประมาณ รายงานฉบับนี้เผยแพร่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งสำนักผู้ตรวจสอบพยายามตรวจสอบว่ากระทรวงกลาโหมและเจ้าหน้าที่กองทัพได้บริหารโครงการอย่างถูกต้องตามแนวทางแก้ไขปัญหาซึ่งเคยยกขึ้นมาแล้วตั้งแต่ปี 2551

ผู้ตรวจสอบเห็นว่าทางกองทัพยังดำเนินการได้ไม่ดีพอ ในรายงานระบุว่า “กองทัพประมาณการว่าจะต้องใช้จ่ายเกินจากงบประมาณราว 2.4 พันล้านเหรียญ ทว่ายังไม่สามารถระบุความต้องการใช้งานทั้งหมดตลอดถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับโครงการได้ นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมและกองทัพ ยังไม่ได้อิมพลิเมนต์ความต้องการอีก 7 ข้อจากจำนวน 16 ข้อที่เคยเสนอไว้ในรายงานครั้งก่อน”

ระบบ GFEBS ปัจจุบันล่าช้าและเกินงบไปถึง 53 ล้านเหรียญแล้ว แผนกำหนดการเริ่มใช้แต่เดิมเคยกำหนดไว้ที่เดือนกันยายน 2550 แต่ก็ล่าช้ามาถึงสิงหาคม 2553 จึงได้เริ่มใช้งาน ส่วนกำหนดการใช้งานเต็มระบบที่เคยกำหนดไว้ในเดือนธันวาคม 2552 ก็เลื่อนมาเป็นธันวาคมของปีนี้ (2554)  นอกจากนี้ยังเป็นไปได้อีกว่า แม้เมื่อการอิมพลิเมนต์ระบบเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ระบบก็อาจไม่สามารถใช้งานได้ครบถ้วนตามวัตถุประสงค์เริ่มแรกที่วางไว้

“ความสมบูรณ์และถูกต้องของโปรแกรมถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะ GFEBS จะต้องเชื่อมโยงกับระบบอื่นหรือใช้แทนที่ระบบอื่นอีกอย่างน้อย 141 ระบบ” ผู้ตรวจสอบกล่าว และระบุเพิ่มเติมว่า ไม่ควรนำระบบขึ้นใช้งานกับผู้ใช้อื่นเพิ่มเติมไปกว่านี้อีกแล้ว จนกว่าจะแก้ไขข้อบกพร่องเสร็จ

ข้างฝ่ายผู้จัดการโครงการของกองทัพกลับเห็นว่า ความเสี่ยงที่ระบุไว้ในรายงานนั้นยังอยู่ในความสามารถจัดการได้ และไม่ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อโครงการแต่อย่างใด ไม่ว่าทั้งงบประมาณและกำหนดการ

“SAP ให้ความสำคัญอย่างมากกับกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งได้ติดตั้งซอฟต์แวร์ของ SAP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และการทำงานอย่างรวดเร็ว” บริษัทผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์กล่าวในการแถลงข่าว “สัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพได้เริ่มให้บุคลากรกว่า 12,000 คนในกองกำลังความมั่นคงเริ่มใช้งาน GFEBS รุ่นที่ 6 แล้ว รวมถึงมีแผนจะดำเนินการใช้งานตัวต่อไปด้วย”

รายงานของผู้ตรวจสอบไม่ได้ทำให้ไมเคิล คริกส์แมน CEO ของบริษัทที่ปรึกษา Asuret ประหลาดใจสักเท่าใดนัก คริกส์แมนกล่าวผ่าน e-mail ว่าการดำเนินงานล่าช้า เกินงบประมาณ และประสิทธิภาพต่ำกว่าที่ควรของโครงการไอทีของภาครัฐนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจนธรรมดา มีการใช้จ่ายทางด้านไอทีที่สูญเปล่ามากมายทั้งที่ได้ลงแรงไปอย่างมาก เช่น IT Dashboard ของรัฐบาลกลาง และการออกกฎหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกำกับดูแลเกี่ยวกับการลงทุนทางด้านไอทีเมื่อปี 2552  การตัดสินใจลาออกของ  ViVek Kundra ผู้เป็น CIO ของรัฐบาลกลางเมื่อไม่นานนี้มีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง ความหวังที่ระบบไอทีของรัฐบาลจะประสบความสำเร็จก็เป็นสิ่งที่ยากมาก

การอิมพลิเมนต์โครงการ ERP ขนาดใหญ่ทุกแห่งล้วนเป็นความท้าทายต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนที่เกี่ยวกับระบบเก่า และวิธีการทำงานที่อาจต้องปรับเปลี่ยนใหม่ ตามความเห็นของคริกส์แมน การอิมพลิเมนต์ระบบ ERP นั้นมีองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ ผู้ผลิตระบบซอฟต์แวร์ ผู้ติดตั้งและบูรณาการระบบ และลูกค้า ซึ่งต่างต้องมีบทบาทสำคัญในส่วนของตนเอง การเลือกระบบซอฟต์แวร์ที่ดีและผู้ให้บริการติดตั้งที่มีความเข้าใจธุรกิจอย่างลึกซึ้งจึงมีความสำคัญมาก เช่นกันกับความเข้าใจและความพร้อมในการปรับตัวเข้ากับระบบใหม่ของลูกค้าเองด้วย

ที่มา : http://www.itworld.com/software/181379/auditors-armys-huge-sap-project-high-risk

No Comments

No comments yet.

RSS feed for comments on this post. TrackBack URI

Leave a comment

You must be logged in to post a comment.

WordPress Themes