Category: บทความทั่วไป

“ไมโครซอฟท์“ ประกาศเลิกผลิตวินโดวส์รุ่นใหม่ เน้นบริการ“อัพเดต“แทน

หลังจากที่บริษัทไมโครซอฟท์ ผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก ได้ปล่อยระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ออกมาให้ใช้งานไม่นานนี้ โดยจงใจข้าม วินโดวส์ 9 ไป เพื่อแสดงความชัดเจนว่าเป็นคนละระบบปฏิบัติการที่ไม่ต่อเนื่องกัน ต่อมาไม่นานนี้ทางไมโครซอฟต์ได้แสดงท่าทีให้เห็นมากขึ้นว่า จะไม่มีวินโดวส์ 11 หรือ 12 อีกต่อไป โดยจะมุ่งเน้นไปที่การอัพเดทระบบปฏิบัติการเดิมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานให้มากที่สุด

สำหรับระบบปฏิบัติการตัวใหม่ของไมโครซอฟต์จะเป็นอย่างไร ยังไม่มีใครทราบ และคงต้องติดตามข่าวกันต่อไปค่ะ

 

ที่มา http://www.windows10update.com/2015/05/there-will-be-no-windows-11-analyst-properly-predicts/

 

หน้าต่างสุดล้ำช่วยประหยัดพลังงาน สร้างกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

 

แสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นตัวการเพิ่มความร้อนให้กับภายในอาคาร ทำให้ระบบปรับอากาศต้องทำงานมากกว่าปกติ หน้าต่างประหยัดพลังงานจึงถูกคิดค้นขึ้นเพื่อให้ช่วยป้องกันแสงอาทิตย์ในหน้าร้อน เพื่อลดภาระระบบปรับอากาศ แต่เปิดรับแสงอาทิตย์ในหน้าหนาวเพื่อช่วยลดภาระระบบทำความร้อนในอาคาร

นวัตกรรมใหม่ชิ้นนี้ พัฒนาขึ้นโดยศาสตราจารย์ Sun Xiaowei และเพื่อนร่วมงานจาก Nanyang Technological University ประเทศสิงคโปร์  ซึ่งคิดค้นหน้าต่างธรรมดาที่เราเห็นๆ กันอยู่ กลายมาเป็นหน้าต่างสุดล้ำที่สามารถช่วยนำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตกระแสไฟฟ้าได้ค่ะ หน้าต่างประกอบด้วยแผ่นกระจก 2 บานที่บรรจุสารอิเล็กโตรไลท์ไว้ภายในที่สามารถนำออกซิเจนได้ ตัวแผ่นกระจกด้านหนึ่งเคลือบด้วยฟอยล์อลูมิเนียม อีกด้านหนึ่งฉาบสารสีน้ำเงินที่มีความไวต่อออกซิเจน มีวงจรไฟฟ้าเล็กๆ เชื่อมอยู่ระหว่างแผ่นกระจกทั้งสอง

ในเวลาปกติ แผ่นกระจกจะใสเหมือนกระจกปกติ แต่เมื่อเปิดให้ระบบทำงาน และสามารถดึงออกซิเจนมาไว้ในอิเล็กโตรไลท์ได้ กระจกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งช่วยป้องกันแสงอาทิตย์ส่องผ่านได้ประมาณ 50%  และยังได้กระแสไฟฟ้าจำนวนน้อยๆ ที่สามารถนำมาใช้งานกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางอย่างได้

ท่านที่สนใจสามารถศึกษางานวิจัยดังกล่าวนี้เพิ่มเติมได้ที่วารสาร Nature Communications ค่ะ

ที่มา : http://news.discovery.com/tech/alternative-power-sources/breathing-window-tints-to-bloack-sun-charges-itself-150105.htm

 

ชมไอเดียสุดล้ำ นวัตกรรมสร้าง”เมืองใต้น้ำแห่งอนาคต”

โมเดลต้นแบบของเมืองใต้น้ำที่นำมาเปิดเผยครั้งนี้ เป็นที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นอย่างมากทีเดียวค่ะ นี่คือเมืองที่ถูกเรียกว่าเป็น “อาณาจักรแอตแลนติสในยุคอนาคต” ซึ่งจะเป็นดินแดนแห่งชุมชนที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ โดยอาจจะตั้งอยู่บนหรือใต้พื้นน้ำทะเลก็ได้ เมืองดังกล่าวอยู่ภายใต้โปรเจ็กต์ชื่อว่า “The Ocean Spiral” มีลักษณะเป็นสิ่งก่อสร้างรูปเกลียวหมุน มีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 500 เมตร ประกอบไปด้วยโรงแรม แหล่งที่พักอาศัย และย่านศูนย์พาณิชย์ โดยเสาเกลียวหมุนใหญ่จะเชื่อมต่อกับแหล่งที่พักอาศัยที่กันน้ำแต่ละแหล่งจนถึงชั้นใต้น้ำทะเล และสามารถสร้างพลังงานในรูปแบบของโรงงานผลิตก๊าซมีเธนได้

นอกจากนี้ โปรเจ็กต์นี้ยังสามารถขุดหาทรัพยากรสินแร่หายากใต้ท้องทะเลได้ด้วย โดยระบบขนส่งจะวางเป็นแนวนอนใต้ก้นทะเลและขึ้นไปตามชั้นเกลียวคลื่นต่างๆ สำหรับประชากร คาดว่าจะมีจำนวน 5 พันคน อาศัยบนลูกบอลโปร่งแสงปิดผนึกบนยอดเกลียว โดยอยู่เหนือพื้นผิวน้ำเพื่อรับแสงแดด แต่ก็สามารถลดระดับลงมาสู่ใต้คลื่นทะเลได้หากเกิดสภาวะอากาศเลวร้าย  คาดว่าโครงการนี้จะใช้เวลาสร้าง 15 ปี หรือเสร็จราวปี 2030 และใช้เวลา 5 ปี สร้างแหล่งพำนักย่อยอื่นๆ ตามมา  น่าสนใจมากเลยทีเดียวนะคะ สำหรับนวัตกรรมสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังจะสร้างขึ้นนี้ค่ะ

ที่มา http://www.energysavingmedia.com/news/page.php?a=10&n=14&cno=6659

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว Count Down 2015

ใกล้ถึงช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2557 กันแล้วนะคะ พี่ๆน้องๆและเพื่อนๆทุกท่านหลายคนคงจะดีใจกันยกใหญ่!! เพราะจะได้หยุดยาวๆ ไปเที่ยวพักผ่อน ฉลอง Count Down ต้อนรับปีใหม่ 2558 กับครอบครัวกันแล้วนะคะ ^^ ..

ใกล้ปีใหม่ทั้งทีแบบนี้หลายๆ ท่านก็คงจะหา สถานที่ท่องเที่ยว Count Down กันบ้างแล้วนะคะ แต่สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบว่าปีใหม่นี้จะไปท่องเที่ยว Count Down ที่ไหน ทางทีมงานฯ ขอแนะนำสถานที่ต่างๆ ของทุกจังหวัดให้ค่ะ เที่ยวให้สนุกแล้วชาร์จพลังเต็มที่ เพื่อกลับมาทำงานต่อหลังจากปีใหม่กันนะคะ ในโอกาสนี้ ทีมงานฯ ขออวยพรฉลองปีใหม่ 2558 “ขออวยพรให้ท่านพบแต่สิ่งดีๆ ที่ท่านตั้งใจไว้ สมหวังดั่งปรารถนาทุกประการ ”

http://thai.tourismthailand.org/see_do/event_festival_search?start=2015-01-1&end=2015-01-31

 

สัมมนาฟรี “การบริหารอาคารสูงและความปลอดภัยในการใช้ลิฟต์”

จากเหตุการณ์ ลิฟต์โดยสารที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งมีข่าว ลิฟต์ตก ลิฟต์เกิดขัดข้องกระทันหัน จากชั้นสูงของอาคารหลายแห่งแล้วนั้น มีทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนไม่น้อย อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากการใช้งานลิฟต์อย่างไม่ถูกต้องตามคำแนะนำของผู้ผลิตหรือหน่วยงานด้านความปลอดภัย ความเข้าใจผิดและการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รวมไปถึงความประมาท  การละเลยการบำรุงรักษาอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการรักษาความปลอดภัยของระบบการบำรุงรักษา (Operate and Maintenance) การตรวจติดตามภายใน และระบบการตรวจติดตามภายนอก

ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  (วสท.) และ สมาคมลิฟต์แห่งประเทศไทย ได้เล็งเห็นว่าเรื่องการบริหารอาคารและการใช้ลิฟต์ให้ถูกต้องและปลอดภัยมีความสำคัญมาก เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นอีก จึงได้กำหนดจัดงานสัมมนาฟรี หัวข้อ “การบริหารอาคารสูง และความปลอดภัยในการใช้ลิฟต์”  ในวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน  พ.ศ. 2557 เวลา 09:00-16:00 น.  ณ ห้องประชุม อาคาร วสท.

ในโอกาสนี้ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  (วสท.) และ สมาคมลิฟต์แห่งประเทศไทย จึงขอเรียนเชิญ เจ้าของอาคาร นิติบุคคลอาคารชุด วิศวกรบริหารงานก่อสร้าง สถาปนิก วิศวกรที่ปรึกษา ผู้ดูแลรับผิดชอบอาคารทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนผู้ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมฟังและแสดงความคิดเห็นได้  โดยในการสัมมนาแบ่งเป็นการให้ความรู้ด้านการบริหารอาคารที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการใช้ลิฟต์ ความรู้เรื่องความปลอดภัยของระบบลิฟต์ และการเสวนาแลกเปลี่ยนความเห็น ประสบการณ์และกรณีอุบัติเหตุที่มักเกิดกับระบบลิฟต์และบันไดเลื่อน รวมถึงกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ผู้สนใจสามารถติดต่อลงทะเบียนได้ที่ : http://www.eit.or.th/events.php?siteid=0&option=events&id=1464&lang=th

 

ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 10 อย่างเป็นทางการแล้ว

Windows 10 ระบบปฏิบัติการใหม่ของ Microsoft เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วนะคะ ในคราวนี้จะเป็นระบบปฏิบัติการตัวเดียวแต่สามารถใช้งานได้บนทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ตหรือสมาร์ตโฟน ที่สำคัญก็คือ Windows 10 จะใช้ Store ร่วมกันอีกด้วยค่ะ

Windows 10 ถูกออกแบบให้เป็นระบบปฏิบัติการที่ทำงานได้บนทุกอุปกรณ์ โดยสามารถทำงานได้บนอุปกรณ์ขนาดเล็ก (หน้าจอ 4 นิ้ว) ไปถึงอุปกรณ์ขนาดใหญ่ (หน้าจอ 80-85 นิ้ว) บนอุปกรณ์ที่ใช้ท่องอินเทอร์เน็ตไปจนถึงเครื่องเซิร์ฟเวอร์ระดับศูนย์ข้อมูล และรองรับการใช้งานได้ทั้ง ระบบสัมผัส/ปากกา เม้าส์/คีย์บอร์ด อุปกรณ์ควบคุม/ท่าทาง โดยที่บางอุปกรณ์สามารถรองรับระบบอินพุตได้หลากหลายแบบกันเลยทีเดียวค่ะ

Microsoft เปิดโอกาสให้สามารถดาวน์โหลด Windows 10 Technical Preview เวอร์ชั่นทดสอบไปทดลองใช้งานกันได้แล้วเพียงเข้าไปกรอกข้อมูลและทำตามรายละเอียดเลยค่ะ  http://windows.microsoft.com/en-us/windows/preview

ที่มา http://blogs.windows.com/bloggingwindows/2014/09/30/announcing-windows-10/

Swivel Card นามบัตรไฮเทค ฝังแฟลชไดร์ฟกระดาษขนาดเล็กไว้ทุกใบ !!!

Swivel Card นามบัตรไฮเทค ฝังแฟลชไดร์ฟกระดาษขนาดเล็กไว้ทุกใบ เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าคนส่วนใหญ่มักจะติดต่อทำความรู้จักและฝากนามบัตรไว้ทุกครั้งเพื่อการติดต่อที่ง่ายและสะดวกรวดเร็ว ซึ่งนามบัตรนี้บางคนก็คิดค้นรูปแบบให้แปลก แหวกแนวให้ดูมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แต่ว่าบางคนเอามาใช้แปปเดียวก็วางไว้เฉยๆ ซึ่งนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่นี้สามารถทำให้เราใช้ประโยชน์กับนามบัตรได้รวมถึงทราบข้อมูลต่างๆ ของเจ้าของนามบัตรได้เป็นอย่างดีเลยที่เดียวค่ะ

โครงการของ KickStarter คิดไอเดียเจ๋งขึ้นมาที่มีชื่อว่าSwivel Card” โดยนำนามบัตรมาฝังแฟลชไดร์ฟขนาดเล็กที่เป็นกระดาษไว้ซึ่งทำหน้าที่เก็บข้อมูลการติดต่อของเจ้าของนามบัตรไว้หมดทุกอย่าง เพียงแค่เสียบแฟลชไดร์ฟเข้ากับคอมพิวเตอร์จะสามารถรู้ข้อมูลทุกอย่างของเจ้าของนามบัตรได้โดยทันที โดยแฟลชไดร์ฟตัวนี้จะมีขนาดไม่ถึง 1 เมกกะไบต์ และเป็นประเภทอ่านอย่างเดียว ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้โดยเด็ดขาด

สำหรับนวัตกรรมเทคโนโลยี่ใหม่นี้  นับว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจมากและสามารถนำมาใช้งานได้ประโยชน์จริง ๆ อีกหนึ่งโครงการเลยนะคะ

ที่มา : http://www.cnet.com/news/business-card-folds-into-updateable-trackable-usb-drive/

 

ไมโครซอฟท์เลิกสนับสนุน Windows Server 2003 และ 2003 R2 เตรียมดึงผู้ใช้ก้าวเข้าสู่วินโดว์ระบบคลาวด์

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศยุติการให้บริการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 และ 2003 R2 ตั้งแต่วันที่ 15 กรกรฎาคม 2558 เป็นต้นไป หลังจากให้บริการระบบปฏิบัติการรุ่นนี้เป็นระยะเวลากว่า 11 ปีเต็มแล้วนะคะ  อย่างไรก็ตาม องค์กรต่างๆ ยังสามารถใช้งานระบบปฏิบัติการเซิร์ฟเวอร์รุ่นนี้ได้ตามปกติอีก 1 ปี เพื่อเตรียมพร้อมการถ่ายโอนระบบเซิร์ฟเวอร์ไปสู่ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ การรับรองเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรม ต้นทุนการบำรุงรักษาระบบ และการรองรับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ในอนาคต

ทั้งนี้ ผู้ใช้งานที่ใช้วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 สามารถอัพเกรดมาใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2012 R2 และโซลูชั่นไมโครซอฟท์ ซิสเต็ม เซ็นเตอร์ 2012 R2 เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล่าสุดของไมโครซอฟท์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการประมวลผล การเก็บข้อมูล การจัดการระบบ การจำลองเครือข่าย การรักษาความปลอดภัยและควบคุมการเข้าถึงข้อมูล และแพลตฟอร์มการพัฒนาเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น

แหล่งที่มา : http://www.microsoft.com/th-th/news/Press/2014/WindowsServer/WS2003EOS_TH.aspx

 

หลอดไฟนาโนที่สามารถเลียนแบบแสงอาทิตย์ได้

 

เทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นได้ทุกวันนะคะ เร็วๆ นี้เราจะสามารถสร้างแสงแดดภายในบ้านด้วยการเปิดสวิทซ์กันแล้วค่ะ โดยเทคโนโลยีที่ว่านี้จะทำให้เกิดแสงที่คล้ายกับแสงแดดจริง โดยนำอนุภาคนาโนมาฉาบไว้บนแผ่นพลาสติกใสติดตั้งบนเพดาน เมื่อฉายแสงจากหลอด LED เจ้าอนุภาคเล็กๆ เหล่านี้จะกระจายแสงในลักษณะเดียวกับชั้นบรรยากาศของโลก จึงทำให้รู้สึกเหมือนแดดจริงมากๆ ค่ะ

แสงแดดภายในบ้านต้นแบบ จะมีคุณสมบัติต่างๆ ที่สามารถจำลองสภาพกลางแจ้งที่แตกต่างกัน อย่างเช่น สามารถเลียนแบบแสงแดดในตอนเช้าหรือกลางวันได้ แม้กระทั่งเลียนแบบแสงตอนพระอาทิตย์ตก ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในการตกแต่งภายใน สามารถนำไปใช้ได้กับบ้านที่ไม่มีหน้าต่าง ผู้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่นี้หวังว่าจะเริ่มต้นการผลิตในอีกหนึ่งหรือสองปีข้างหน้าที่จะถึงนี้ หากการพัฒนานี้สามารถต่อยอดและนำไปใช้กับสถานที่ที่แสงแดดเข้าไม่ถึง น่าจะให้ความรู้สึกที่ดีขึ้นทั้งในด้านแสงสว่างรวมไปถึงการใช้งานในส่วนต่างๆ เช่นกันนะคะ

ที่มา : http://www.digitaltrends.com/home/new-led-panel-technology-uses-nanoparticles-accurately-mimic-daylight/#!FqsGZ

ไมโครซอฟท์พัฒนา “ลิฟต์อัจฉริยะ” ไม่ต้องกดชั้น ก็รู้ว่าเราจะไปชั้นไหน


ไมโครซอฟท์เปิดเผยโครงการพัฒนาระบบ AI ประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งหนึ่งในโครงการที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้ คือ “ลิฟต์อัจฉริยะ” นั้นเองค่ะ เป็นลิฟต์ที่เราไม่จำเป็นต้องเลือกกดชั้น มันจะวิเคราะห์ว่าเมื่อถึงเวลานี้เราจะไปชั้นไหน และพาเราไปอัตโนมัติได้เลยค่ะ

เทคนิคที่ไมโครซอฟท์นำมาใช้คือ การใช้ระบบจดจำบุคคล และบันทึกเป็นสถิติว่าบุคคลนี้เวลานี้จะใช้บริการชั้นไหน เพื่อคาดเดาชั้นที่คนๆ นั้นต้องการไป ซึ่งได้มีขั้นตอนในการทดสอบไมโครซอฟท์ได้บันทึกการใช้บริการถึง 3 เดือน ในการวิเคราะห์พฤติกรรมก่อนจะปล่อยให้ระบบตัดสินใจเลือกชั้นให้เอง

การประยุกต์ใช้ในอนาคตจะช่วยให้เราไม่ต้องใช้มือกดลิฟต์อีกแล้ว รวมถึงไม่ต้องเสียเวลารอลิฟต์อีกด้วย ลิฟต์จะวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งานและจัดเตรียมการล่วงหน้า เช่น เมื่อถึงเวลาประชุมของเราที่ชั้น 5 ลิฟต์ก็จะมารอทันที หรือการบริหารจัดการลิฟต์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อรองรับช่วงเวลาเร่งด่วนอย่างเช่นช่วงพักเที่ยง

เป็นงานวิจัยต้นแบบที่น่าสนใจมากนะคะ และอีกไม่นานอาจมีแอพบนมือถือของเราสำหรับติดต่อเรียกใช้ลิฟต์ก็ได้ค่ะ

ที่มา : http://www.geek.com/microsoft/microsoft-research-creates-elevator-that-knows-where-you-need-to-go-1582612/

WordPress Themes